6 เม.ย. 2565 02:55 น. ไทยรัฐออนไลน์

สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย เตรียมร่วมมือวิจัยอาวุธความเร็วเหนือเสียงและวิธีป้องกัน ภายใต้สนธิสัญญาความมั่นคง รับมือความก้าวหน้าของจีนและรัสเซีย

สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันอังคารที่ 5 เม.ย. 2565 ว่า สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย เตรียมเริ่มความร่วมมือในการวิจัยอาวุธความเร็วเหนือเสียง และวิธีป้องกันอาวุธประเภทนี้แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งในสนธิสัญญาความมั่นคง AUKUS ที่ทั้งสามชาติประกาศเมื่อปีก่อน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากการพัฒนามิสไซล์ความเร็วเหนือเสียงของจีนกับรัสเซีย และการใช้อาวุธความเร็วเหนือเสียงครั้งแรกของรัสเซียในยูเครนเมื่อเดือนก่อน โดยอาวุธประเภทนี้จะมีความเร็วมากกว่าเสียงถึง 5 เท่า รวมถึงบินในเพดานบินต่ำ พ้นระยะของเรดาร์ภาคพื้น และสามารถเปลี่ยนทิศทางระหว่างบินได้ ทำให้ยากแก่การป้องกัน

อนึ่ง สหรัฐฯ กับออสเตรเลียมีโครงการร่วมเพื่อพัฒนาอาวุธความเร็วเหนือเสียงอยู่ก่อนแล้ว แต่สหราชอาณาจักรซึ่งไม่มีอาวุธชนิดนี้ ยืนยันว่า ความร่วมมือล่าสุดจะมุ่งเน้นในด้านการป้องกัน โดยยังไม่มีแผนพัฒนาอาวุธความเร็วเหนือเสียงเป็นของตัวเอง แต่โครงการนี้จะช่วยให้ประเมินได้ว่า พวกเขาจำเป็นต้องพัฒนามันในอนาคตหรือไม่

สหราชอาณาจักรเสริมด้วยว่า ความร่วมมือนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่รัสเซียใช้อาวุธความเร็วเหนือเสียงในยูเครน แต่ข้อเท็จจริงที่ว่า ประเทศอื่นๆ กำลังลงทุนในด้านนี้ หมายความว่า UK จำเป็นต้องคิดหาทางป้องกัน

ทั้งนี้ รัสเซียอ้างเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า พวกเขายิงมิสไซล์ความเร็วเหนือเสียงทำลายคลังอาวุธแห่งหนึ่งในภาคตะวันตกของยูเครน ซึ่งถือเป็นการใช้อาวุธประเภทนี้ในการต่อสู้จริงครั้งแรกของโลก และหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า กองทัพรัสเซียใช้อาวุธความเร็วเหนือเสียงอีกหลายครั้งหลังจากนั้น

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน จีนก็เพิ่งสร้างความตกตะลึงให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ด้วยการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงซึ่งติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ 2 ครั้ง โดยทั้ง 2 ครั้ง จรวดวนรอบโลกในวงโคจรต่ำก่อนจะกลับสูงโลก แต่ครั้งที่ 2 ยิงพลาดเป้าหมายราว 40 กม. อย่างไรก็ตาม การทดสอบนี้สะท้อนว่า จีนมีเทคโนโลยีอวกาศก้าวหน้ากว่าที่สหรัฐฯ เคยคิดเอาไว้

Cr. ไทยรัฐการพิมพ์