15/09/2022 globthailand

ออสเตรเลียเป็นแหล่งทรัพยากรแร่ที่สําคัญของโลก ทั้งแร่โลหะและโภคภัณฑ์ด้านพลังงาน (ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ) โดยออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตทรัพยากรแร่รายใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกในหลายประเภท อาทิ แร่เหล็ก ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ทองคํา ทองแดง อลูมิเนียม ลิเธียม นิกเกิล แมงกานีส เงิน ดีบุก สังกะสี ยูเรเนียม บอกไซต์ วานาเดียม พลวง กราไฟต์ โคบอลต์ ไนโอเบียม และทังสเตน
ภาคอุตสาหกรรมทรัพยากรแร่เป็นรากฐานที่สําคัญของเศรษฐกิจออสเตรเลียเนื่องจากทรัพยากรแร่ในออสเตรเลียเป็นองค์ประกอบสําคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต อาทิ Metaverse ยานยนต์ไร้คนขับ การดูแลสุขภาพขั้นสูง พลังงานไฮโดรเจน และการลดคาร์บอน
โดยในปี 2564 รายได้จากการส่งออกทรัพยากรแร่ของออสเตรเลีย ทําสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 351,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากสถิติสูงสุดก่อนหน้าเมื่อปี 2562 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ในปี 2564 การส่งออกแร่เหล็กสร้างรายได้ให้แก่ประเทศจํานวน 154,200 ล้านดอลลาร์ ออสเตรเลียเพิ่มขึ้น ร้อยละ 32 จากปี 2563 และเป็นมูลค่าการส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่การส่งออกถ่านหินสร้างรายได้ 62,000 ล้านดอลลาร์ ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากปี 2563 รองลงมา ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติเหลว(49,100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ทองคํา (25,900 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)อะลูมิเนียม (13,700 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) และทองแดง (12,100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
การเติบโตของรายได้จากการส่งออกทรัพยากรแร่ของออสเตรเลีย ส่งผลให้ประเทศนี้ยังคงได้ดุลการค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาที่ยากลําบาก นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมทรัพยากรแร่ของ ออสเตรเลีย ก่อให้เกิดการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับการทําเหมืองแร่โดยตรงสูงถึง 258,000 ตําแหน่ง โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตเมืองใหญ่
ในระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 – มิถุนายน 2564 อุตสาหกรรมเหมืองแร่ของ ออสเตรเลีย สร้างรายได้ให้แก่ภาครัฐในรูปของภาษีเงินได้นิติบุคคลและค่าสัมปทานเป็นจํานวน 43,200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า และเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแบ่งเป็นภาษีเงินได้ นิติบุคคลจํานวน 26,500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าสัมปทานจํานวน 16,700 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
นาย Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้กล่าวถึงความสําคัญของอุตสาหกรรมแร่และทรัพยากรธรรมชาติว่าเป็นองค์ประกอบสําคัญที่ช่วยให้ออสเตรเลียเป็นมหาอํานาจด้านพลังงานทดแทน โดยมีการคาดการณ์ว่าการผลิตแร่ธาตุเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีพลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศต่างๆหันมาลงทุนในด้านดังกล่าวเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2050 โดยภายในปี ค.ศ. 2030 การผลิตลิเทียมจะเพิ่มขึ้น 4 เท่า การผลิตแร่ rare earth จะเพิ่มขึ้น 2 เท่านิกเกิล สำหรับผู้ประกอบการไทยสามารถศึกษาข้อมูลสำหรับการนําทรัพยากรแร่ไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตจากออสเตรเลียได้ เพื่อหาทิศทางและแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจให้เท่าทันต่ออุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.minerals.org.au/sites/default/files/30Things_The_Futurist_Edition.pdf
ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา
เรียบเรียง : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
Cr. globthailand